ฮ่าๆๆๆ ดูรูปแล้วเขิ้นเขินค่ะ แต่ก็เอาเถอะ เพื่อการศึกษา เพื่อความปลอดภัย เพื่อความรับผิดชอบต่อส่วนรวม เพื่อสิทธิสตรี (ผู้ชายมีได้เราก็ต้องมีได้ฟ๊ะ) และเพื่ออะไรอีกหลายๆอย่างค่ะ
ที่เห็นในภาพคือถุงยางอนามัยสำหรับสุภาพสตรีค่ะ หลายคนคงเคยได้ยินได้ฟังกับมาบ้างแล้วเกี่ยวเรื่องราวของเจ้าสิ่งนี้ และวันนี้ blog.fukduk.tv ของเรามีเรื่องราวแบบล้วงลึกมานำเสนอค่ะ
ลักษณทางกายภาพ คอนดอมของผู้หญิงทำจากยางที่มีลักษณะอ่อนนุ่มที่เรียกว่า Nitrile Polymer มีความยาวประมาณ 17 ซม. หรือ 6.5 นิ้ว ที่ปลายของถุงยางทั้งสองด้านมีห่วงที่สามารถยืดหยุ่นได้ โดยเฉพาะปลายด้านที่ปิดอยู่นั้นเป็นด้านที่ต้องสอดใส่เข้าไปข้างใน ส่วนปลายอีกด้านที่เปิดอยู่มีห่วงหรือวงแหวนที่คอยกระชับไม่ให้ถุงยางหลุด เข้าไปข้างใน
อันที่จริงแล้วถุงยางอนามัยสำหรับสตรีถูกคิดค้นและออกแบบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1988 โดยแพทย์แผนกสูตินรีเวช ชาวเดนมาร์ก จากนั้นจดทะเบียนลิขสิทธิ์ที่อเมริกา ในปีเดียวกันโดยบริษัท Wisconsin pharmacal
หนึ่งปีต่อมา (1989) ในประเทศอังกฤษ บริษัท Chartex International ได้ทำการผลิตถุงยางอนามัยสตรีออกวางจำหน่ายโดยใช้ชื่อ Femidom
อีก 4 ปีให้หลังหรือในปี 1993 ถุงยางผู้หญิงถึงได้ผ่านการรับรองจาก FDA เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่ยังได้รับความนิยมค่อนข้างน้อย ซึ่งปัญหาหลักเลยก็คือเรื่องราคาที่ค่อนขางสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับถุงชาย ผู้ชาย โดยราคาที่สหรัฐฯ เฉลี่ย 1 ชิ้นอยู่ที่ 50 เซนต์ ส่วนของผู้หญิงอยู่ที่ตั้งแต่ 2-4 ดอลล่าร์
วัสดุที่ใช้ในรุ่นแรกสุดทำมาจากพลาสติกโพลียูรีเทน (polyurethane) ม้วนเป็นท่อกลม แล้วเชื่อมห่วงเข้าไปที่ปลายทั้งสองข้างทำให้มีเสียงรบกวนเวลาร่วมเพศ เปรียบคล้ายการใช้ “ถุงกร๊อบแกร๊บ”
ถุงยางแบบใหม่ทำจากยางสังเคราะห์ ทำให้ผลิตแบบฉีดยางเหลวเข้าไปในแม่พิมพ์ตามกรรมวิธีผลิตถุงยางผู้ชาย การผลิตที่ยุ่งยากน้อยลงทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงส่งผลให้ราคาถุงยางผู้หญิง ลดลงตามไปด้วย
ต่อมาพัฒนาไปเป็นถุงยางลาเท็กซ์แบบถุงยางผู้ชาย และพัฒนาต่อไปเป็นถุงยางที่ทำจากยางสังเคราะห์ (nitrile polymer) ได้ในปี 2005 หรือ พ.ศ. 2548
คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (US FDA) ลงมติเป็นเอกฉันท์ 15 ต่อ 0 เสียงเพื่อให้ถุงยางอนามัยผู้หญิงรุ่นใหม่ (FC2) วางจำหน่ายได้แล้ว ถุงยางอนามัยผู้หญิงรุ่นใหม่ที่ว่านี้ทาง FDA พบว่า ข้อดีอย่างแรกคือ ราคาถูกลง และข้อดีที่เหลือคือ นุ่มนวลและ “เงียบ” กว่าเดิมมาก
คอมดอมผู้หญิงช่วยป้องกันการตั้งครรภ์และเชื้อโรคเหมือนกับของผู้ชายเลย ค่ะ และยังมีความทนทานกว่าของผู้ชายถึง 40% แถมอายุการใช้งานนั้นมีถึง 5 ปีหลังวันผลิต
เท่านั้นยังไม่พอ! มันยังเอื้อประโยชน์ให้กับผู้หญิงที่แฟนหนุ่มไม่ชอบสวมใส่ถุงยางอนามัย และที่สำคัญการใช้ถุงยางสามารถสวมใส่ก่อนมีกิจกรรมบนเตียงได้ถึง 8 ชั่วโมง ที่นี้คุณทั้งคู่ก็ไม่ต้องคอยพะวงกับการต้องคอยสวมถุงยางอนามัยให้แฟนหนุ่ม หากเจ้าน้องชายยังไม่ตื่นตัวเต็มที่
แต่ข้อเสียของมันก็มีเหมือนกันนะคะ ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากความกังวล และความไม่คุ้นเคย เพราะว่าการสวมใส่เข้าไปนั้นจะต้องใช้ความชำนาญ ซึ่งผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีปัญหาว่าสวมใส่ยากและถอดออกก็ลำบาก หรือกลัวว่ามันจะหลุดเข้าไปหรือหลุดออกมา หรือหลุดเข้าหลุดออก(55+) ในเวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม แต่ของแบบนี้เมื่อใช้ไปบ่อยๆ แล้วก็จะชำนาญขึ้นเองค่ะ
How to use Female Condom…มันใช้ยังไงล่ะเนี่ย?
มาถึงขั้นตอนการสวมใส่กันบ้างค่ะ อันที่จริงมีภาพด้วย แต่ภาพมันน่ากลัวไปนิด ขออนุญาตไม่นำเสนอก็แล้วกัน (แค่วิธีการใส่ก็สยิวพอแล้ว เหอๆ) เชิญจินตนาการกันตามสะดวกค่ะ
1. ล้างมือให้สะอาดก่อนนะ
2. จัดท่าให้เมาะสมกับการใส่ ปกติจะใช้ท่านอนหงายชันเข่า หรือท่านั่งยองๆ
3. เมื่อแกะออกจากซอง ให้ตรวจดูว่าวงแหวนภายในอยู่ที่ก้นถุง
4. ใช้มือข้างที่ถนัด จับวงแหวนภายในจากภายนอกของถุงยาง ซึ่งอยู่บริเวณก้นถุงด้วยนิ้วหัวแม่ถือกับนิ้วกลางบีบเข้าหากันเป็นวงรี ขณะเดียวกันให้วางนิ้วชี้ทาบไปบนวงแหวน ระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วกลางเพื่อช่วยในการสอดใส่เข้าช่องคลอด โดยปล่อยปลายเปิดซึ่งติดกับวงแหวนภายนอกให้ห้อยลง
5. ใช้นิ้วมืออีกข้างแยกปากช่องคลอดให้เปิดออก จากนั้นสอดวงแหวนภายในที่อยู่ในก้นถุงเข้าสู่ช่องคลอด
6. ใช้นิ้วชี้ของมือข้างที่ถนัด สอดผ่านปลายเปิดเข้าไปดันวงแหวนภายในจากภายในถุงโดยตรงให้เข้าไปในช่องคลอดให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้
7. เมื่อสอดใส่วงแหวนภายนอกจะอยู่ภายนอกช่องคลอดและอาจอยู่ห่างช่องคลอด ประมาณ 1 นิ้ว เมื่อมีการร่วมเพศ ช่องคลอดจะยืดขยายตัวทำให้ส่วนของถุงที่ยื่นออกมาหดสั้นลง จนวงแหวนภายนอกชิดกับปากช่องคลอดได้
8. ขณะสอดอวัยวะเพศชายเข้าช่องคลอด หญิงอาจช่วย โดยใช้มือจับวงแหวนภายนอกให้ชิดกับปากช่องคลอด เพื่อป้องการสอดเข้าด้านข้างของถุงยาง
9. หลังการร่วมเพศ ให้เอาถุงยางอนามัยสตรีออกจากช่องคลอดก่อนลุกนั่งหรือยืน โดยหมุนวงแหวนภายนอกเพื่อไม่ให้น้ำอสุจิไหลออกจากปลายเปิด จากนั้นจึงค่อยดึงออกจากช่องคลอดอย่างนุ่มนวล ตรวจดูสภาพว่าไม่ชำรุด จากนั้นก็ห่อกระดาษแล้วนำไปทิ้งถังขยะให้มิดชิด ห้ามนำไปซักล้างแล้วใช้ใหม่
10. ถ้าจะร่วมอีกรอบ ก็ต้องใช้อันใหม่นะจ๊ะ
ข้อนี้สำคัญมาก ไม่ต้องกลัวเอดส์ถึงขนาดใส่พร้อมกันทั้ง 2 คนนะคะ เพราะถุงยางมันจะเสียดสีกันเอง อาจจะรั่วได้ แล้วที่นี้แหละ…งานเข้าชุดใหญ่เลยเชียว
โดยส่วนตัวไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่ะ เพราะเป็นเรื่องไกลตัวมากกกก คงต้องให้ผู้รู้มาให้ความเห็นผ่านคอมเมนท์ แล้วเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านคิดว่ายังไงกันบ้างคะ บอกกันบ้างนะ ^^
via : http://www.condomthai.com , http://counsel2.spu.ac.th , http://168-guru.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น