ตั้งชื่อไทยให้เป็น ชื่อจีน อัติโนมัติไม่ต้องพึ่งซินแส ผ่านเว็บออนไลน์ให้ง่ายๆ หลักการตั้งชื่อคนจีนจะมี 4 แบบ
หลังจากปล่อยเอนทรี
“มหัศจรรย์อักษรจีน” ฮอตฮิตติดลมบนหน้าหนึ่งฮอตโพสของหมู่บ้านไปแล้ว ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ กันก่อน ที่ช่วยคลิก ช่วยกันกดบอลแดงให้ น่ะค่ะ
นับว่าเป็นกำลังใจที่ดีมากๆ สำหรับคนเขียนบล็อก
เอาละ เอนทรีนี้ก็จะเป็นภาคต่อของเอนทรีก่อนหน้า เห็นในคอมเมนต์หลายคนบอกว่าอยากมีชื่อจีน คงเป็นเพราะได้แรงบันดาลใจจากชื่อ “แม่นางขลุ่ยหยก”ของ เจ้าของบล็อกแน่ๆ เลย (เข้าข้างตัวเองได้อีก) ก่อนอื่นที่จะไปมีชื่อจีนกัน เรามาทำความรู้จักกับชื่อแบบจีนๆ กันสักนิด
1. การเรียงลำดับตำแหน่งชื่อจีน
ตำแหน่งแรกของชื่อจีนจะใช้แซ่ขึ้นต้น และตามด้วยชื่อ เช่น โจว เหวินฟะ (คนนี้มีแซ่โจว ชื่อ เหวินฟะ)
2.ลักษณะของแซ่
ที่นิยมกันมากเป็นแซ่ ที่ออกเสียงพยางค์เดียว เช่น โจว / หวง / ไช่ / เฉิน แต่บางทีก็มีสองพยางค์ เช่น จูเก๋อ / โอวหยัง หรือแม้แต่ 4 พยางค์ ก็เช่น อ้าย ซิน เจี่ย หลอ (อันนี้เป็นแซ่ในราชวงศ์ชิง ชนเผ่าที่ขึ้นมามาจากเผ่าแมนจู)
3. ลักษณะของชื่อ
ข้อนี้จะคล้ายๆกับการตั้งชื่อในภาษาไทย ก็มักจะดูรวมไปถึงนิสัยใจคอ รูปร่างภายนอก(หล่อ มาดแมน สวย เพรียว) สรุปคือ เอาที่เป็นมงคล
สำหรับชื่อของผู้ชายจีนก็จะออกแนวยืมลักษณะของสิ่งแวดล้อมรอบตัว หรือที่เป็นนามธรรม ขุนเขา พระอาทิตย์ ประเทศชาติ ความจงรักภักดี ที่สื่อแล้วมันยิ่งใหญ่ มีอานุภาพ ...แต่ถ้าเป็นชื่อผู้หญิงก็จะออกแนว น่ารัก อ่อนโยน น่าทะนุถนอม เท่าที่เคยฟังชื่อของเพื่อนๆ คนจีนมา ชื่อผู้หญิงมักจะมี หยก แม่น้ำ หิมะ สายฝน ดวงจันทร์ (เท่าที่นึกออกน่ะค่ะ) เช่นชื่อของเจ้าของบล็อกมีตัวหยก และ ขลุ่ย รวมกันจึงเป็น ขลุ่ยหยก (เหมือนคนตั้งมองออกว่าเราเสียงเพราะเลยนะเนี่ย แต่ความจริง....)
หัวใจสำคัญๆ ที่เมย์พอจะนึกออกก็คงจะมี 3 ข้อนี้ ที่บอกไปข้างต้น แต่อื่นๆ ที่มากกว่านี้ก็จะเป็นรายละเอียดที่เจาะลึกลงไปอีก ซึ่งคงไม่พูดถึงในที่นี้ เพราะไม่มีข้อมูลแน่นพอ กลัวทำให้คนอ่านเข้าใจผิดๆ พอจะรู้จักที่มาที่ไปของชื่ออาตี๋อาหมวยเขาแล้ว ทีนี้เราก็ลุยไปสร้างชื่อของเราเองบ้างดีกว่า