ผมอยากจะให้คุณลองจินตนาการดูวันนึงมีเซลล์ขายเครื่องไฟฟ้าจากบริษัทแห่งหนึ่งมากดกริ่งที่หน้าบ้านคุณ คุณเดินออกไปพบและเค้าก้อเริ่มที่จะบรรยายสรรพคุณต่าง ๆ ของสินค้าที่เค้ามีทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ราคา ประสิทธิภาพการใช้งาน รวมไปถึงการบริการหลังการขาย การรับประกันเค้าพูดจบก็เสนอราคาให้คุณ 2 หมื่นบาท คุณก็ยังลังเลเนื่องจากไม่มั่นใจว่ามันจะดีจริงอย่างที่เค้าพูด คราวนี้ด้วยความที่เค้าอยากจะให้คุณซื้อมาก เค้าก็เลยลดราคาให้เค้าบอกเหลือ 1หมื่น 5 พัน ก็ได้ คุณก็ยังลังเล เค้าลดราคาอีกบอก 1 หมื่นถ้วน เค้าพยายามลดราคามาให้คุณพอใจและซื้อไปจากเค้าให้ได้ แต่คุณเริ่มสงสัยแล้วว่ามันจะดีจริงเหรอวะเนี่ย ลดราคามาเหมือนจะยัดเยียดให้กูซื้อเลยเว้ย คุณเลยบอกขอไปคิดดูก่อน แล้วคุณก็เดินกลับเข้าบ้านไปสักพักเซลล์ขายเครื่องไฟฟ้าจากอีกบริษัทมากดกริ่ง คุณเดินออกไปพบอีกเช่นเดิมเค้าพูดข้อดีของสินค้าเหมือนคนแรกแทบทุกอย่างแต่เค้าพูดอย่างสุขุม แน่วแน่และด้วยความมั่นใจ คุณรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เค้าพูดน่าจะเป็นจริงเค้าเสนอราคาให้คุณ คุณบอกว่ามันแพงเกินไปขอลดอีกสักหน่อยได้เปล่า เค้าบอก "เราไม่
สามารถลดให้ได้ครับ เนื่องจากว่าสินค้าชิ้นนี้มันเป็นตัวที่ดีจริง ๆ ประสิทธิภาพสูงถ้าคุณซื้อไปคุณจะพอใจกับมันแน่นอน แต่ถ้าคุณไม่ซื้อผมมั่นใจว่า อีกสักพักจะต้องมีคนอื่นมาซื้อไปอย่างแน่นอน และตัวนี้ก็เป็นตัวสุดท้ายแล้วด้วย" แล้วลองคิดดูว่าถ้าคุณจะเลือกซื้อสินค้าจาก 2 บริษัทนี้ คุณจะเลือกของบริษัทไหนครับแทบไม่ต้องคิดเลยว่า คุณต้องเลือกบริษัทที่สองแน่นอน!!! เพราะว่าเซลล์ทำให้มันดูมีค่ามากกว่า มันเหมือนเป็นที่ต้องการของตลาด สินค้าของบริษัทที่สองมันอาจจะไม่ดีจริงอย่างที่เค้าพูดก็ได้ แต่จากวิธีนำเสนอทำให้มันดูมีค่ามากผิดกับบริษัทแรก คนขายนั้นดิ้นรนที่จะขายมันให้ได้ ถึงแม้ว่ามันจะดีจริงอย่างที่พูดแต่มันก็ถูกมองว่ามีค่าด้อยกว่า เพราะวิธีเสนอขายมันผิดการจีบสาวก็เหมือนกับการซื้อขายของ เพียงแต่ว่าคุณเป็นทั้งเซลล์และตัวสินค้าในเวลาเดียวกันส่วนคนซื้อก็เป็นสาว ๆแค่นี้คุณก็รู้แล้วว่าคุณต้องทำตัวแบบไหน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น